พระบูชาประจำวันเสาร์

ผู้ที่เกิดวันเสาร์มีเทวดาประจำกายคือ พระเสาร์เทวา ลักษณะนิสัยของผู้ที่เกิดวันเสาร์ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีอารมณ์ปรวนแปรเอาแน่นอนอะไรไม่ได้และเป็นคนที่ชอบพูดตรงไปตรงมา คิดอย่างไรก็พูดออกไปอย่างนั้น ไม่ชอบอ้อมค้อม จึงเป็นเหตุให้มีศัตรูโดยที่ไม่รู้ตัว จึงจำเป็นต้องมีสิ่งอันเป็นมงคลทั้งหลายคอยปกปักรักษา ตามโบราณบอกว่าให้บูชา พระพุทธรูปปางนาคปรก เป็นพระบูชาประจำวัน พระพุทธรูปปางนาคปรกมีลักษณะประทับนั่งในท่าขัดสมาธิ แบบเดียวกันกับพระพุทธรูปปางสมาธิซึ่งเป็นพระบูชาประจำวันพฤหัสบดี ต่างกันเพียงแต่องค์พระจะประทับนั่งสงบนิ่งอยู่เหนือขนดของพญานาค 7 ตน โดยพญานาคได้แผ่พังพานทั้ง 7 เศียรปกคลุมเหนือเศียรของพระพุทธรูป เพื่อป้องกันหยาดน้ำค้างหยาดฝนให้องค์ตถาคต


พุทธคุณที่ได้รับจากการบูชาพระพุทธรูปปางนาคปรกจะเป็นด้านป้องกันหรือที่เรียกกันว่า มหาอุด คุ้มครองผู้ที่บูชาให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง นอกจากนั้นยังให้พุทธคุณทางด้านค้ำจุนอุปถัมภ์ช่วยให้ผู้ที่บูชาไม่เข้าตาจนเพราะจะมีคนมาคอยช่วยเหลือให้ผ่านพ้นไปได้ตลอด ก่อนออกจากบ้านให้ท่องคาถาพระนารายณ์ถอดจักร โส มา ณะ กะ ริ ถา โร แบบเต็มน้ำเสียงท่องทั้งหมด 10 จบ เพื่ออาราธนาพุทธคุณขององค์พระมาเป็นเกราะแก้วคุ้มครองป้องกันภัย
พุทธมนต์ที่ใช้สำหรับกำกับบูชาพระพุทธรูปปางนาคปรกคือ อังคุลิมาลปริตร เป็นพุทธมนต์ที่ทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นพุทธคุณบทสั้น ๆ แต่มีพุทธคุณมากมายมหาศาล พุทธมนต์บทนี้มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยพุทธกาล เป็นมนต์ที่พระองคุลีผูกขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงท้องแก่คนหนึ่งให้สามารถคลอดทารกออกมาได้อย่างปลอดภัย ย้อนไปครั้งสมัยพุทธกาลในช่วงที่พระองคุลีบวชใหม่ ๆ ถึงแม้พระองคุลีบวชจะได้ชื่อว่าเป็นสาวกขององค์ตถาคตแล้วก็ตาม แต่ยามที่ออกบิณฑบาตรซึ่งเป็นกิจของสงฆ์นั้นกลับไม่มีผู้ใดมาใส่บาตรเลยแม้แต่คนเดียว เพราะยังมีความแค้นเคืองแทนญาติพี่น้องของตนที่ถูกพระองค์คุลีสังหารเมื่อครั้งก่อนที่จะออกบวช แต่พระองค์คุลีก็ไม่ได้ละความพยายามแต่อย่างใดยังคงเดินออกบิณฑบาตรอยู่เช่นนั้นทุกวัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ข้าวปลาอาหารกลับมาฉันเลยก็ตาม จนมาวันหนึ่งขณะที่องค์คุลีได้ออกเดินบิณฑบาตรดังเช่นทุกวัน ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวผู้หนึ่งร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทรมาน จึงค้นหาจนไปพบต้นเสียงร้องนั้นว่าเป็นเสียงร้องของหญิงสาวท้องแก่คนหนึ่งนั่งอยู่บนตั่งส่งเสียงร้องด้วยความทรมานเนื่องจากไม่สามารถคลอดทารกได้ พระองค์คุลีจึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยพุทธมนต์บทหนึ่ง แล้วใช้มือลูบไปบนตั่ง เมื่อกล่าวมนต์จบปาฏิหารย์ก็บังเกิดขึ้น โดยเด็กทารกก็คลอดออกมาทันที ซึ่งทั้งหญิงสาวและทารกก็ปลอดภัยด้วย จากนั้นเป็นต้นมาเมื่อมีหญิงสาวคนใดที่คลอดยากก็จะต้องมานั่งคลอดที่ตั่งตัวนี้ก็จะสามารถคลอดได้อย่างง่ายดาย ส่วนใครที่เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ก็จะใช้วิธีเอาน้ำมาล้างที่ตั่งแล้วโปรยน้ำไปตามตัวหรือไม่ก็นำมาดื่มกินก็จะหายจากโรคที่เป็นอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ และผลที่เกิดจากอังคุลิมาลปริตรนี้เองทำให้พระองค์คุลีเป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาของชาวบ้านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พุทธคุณที่เกิดจากการท่องสวดพุทธมนต์บทนี้ จะเกิดทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ช่วยให้ผู้ที่ท่องบทสวดนี้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง อีกทั้งยังเสริมในเรื่องของอายุช่วยให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ผู้ที่เจ็บป่วยเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ หรือโรคที่รักษาได้ยาก ก็ให้ท่องสวดอังคุลิมาลปริตร 9 จบเช้าเย็น ก็จะช่วยให้โรคที่เป็นอยู่นั้นทุเลาลงได้อย่างน่าอัศจรรย์

อังคุลิมาลปริตร
ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัจจิญจะ ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพพัสสะ
คำแปล
น้องหญิง ตั้งแต่อาตมาได้เกิดใหม่ในอริยชาติ (บรรพชาเช้าสู่พุทธศาสนา) หาได้มีความคิดหรือเจตนาที่จะทำให้สังขารหนึ่งสังขารใดต้องแตกดับอีกเลย ด้วยสัจจะอธิษฐานนี้ ขอความสวัสดีจงเกิดขึ้นแก่น้องหญิงเถิด ขอความสวัสดีจงเกิดแก่บุตรในครรภ์ของน้องหญิงเถิด