ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
ในวันตรุษจีนจะมีความเชื่อกันว่าห้ามพูดเรื่องไม่ดีไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล และคำว่าสี่ ซึ่งมีความหมายคล้ายคำว่าความตายก็ห้ามพูดออกมา ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องราวเกี่ยวกับผีสาง เรื่องราวเก่า ๆ ก็ห้ามพูดถึง ให้พูดถึงเรื่องของอนาคต และทุกอย่างที่ดีเป็นมงคลรับปีใหม่และการเริ่มต้นชีวิตใหม่ หากร้องให้ในวันปีใหม่ ก็มีความเชื่อว่าจะมีเรื่องร้องให้ไปตลอดปี ฉะนั้นไม่ว่าเด็กจะดื้อจะซนจนโกรธแค่ไหนผู้ใหญ่ทุกคนก็จะต้องอดทนอดกลั้นไม่ดุด่าไม่ตีสั่งสอนจะพูดแต่คำดี ๆ ไม่เกรี้ยวกราดอารมณ์เสีย การแต่งกายก็จะสะอาด และไม่ควรสระผมเพราะนั่นจะเป็นการชะล้างโชคลาภความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าที่นิยมคือสีแดง เพราะเชื่อว่าเป็นสีแห่งความสดใส เป็นสีสว่างแห่งความสุข จะนำพาความสว่างเจิดจ้ามาสูผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนจะส่งผลให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด รวมไปถึงญาติพี่ที่ใกล้ชิดก็จะได้อั่งเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ธนบัตรใหม่เพื่อแสดงถึงความโชคดี สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมาก ๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยือนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแสมาเพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมก่อนเดินทางออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย คำแรกที่ได้ยินหรือบุคคลแรกที่ได้เจอมีความสำคัญมากเพราะจะส่งให้มีผลดีหรือร้ายได้ตลอดทั้งปี การได้ยินเสียงนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่นถือว่าจะมีความโชคดีมาก
การเข้าไปพบบุคคลใดในห้องถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นมงคล ดังนั้นแม้แต่คนป่วยก็ยังต้องแต่งตัวออกมานั่งที่ห้องรับแขก ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษจีนเพราะถือว่าเป็นการตัดโชคดี ทุกวันนี้ก็ใช่ว่าชาวจีนจะยังคงเชื่อเรื่องราวแบบนี้ไปเสียทั้งหมด แต่วิถีการปฏิบัติก็ยังคงทำสืบต่อกันเรื่อยมาเพราะถือว่าสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียมและวัฒนธรรม โดยชาวจีนจะยึดถือว่าการได้ปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณเป็นการแสดงถึงความเป็นครอบครัวและความเป็นเอกลักษณ์ของตน