เห้งเจีย


เห้งเจีย เดิมเกิดเป็นหินที่อาบแสงจากสุริยันจันทราอยู่บนยอดเขา “จิ่นหัวซัน” มากกว่าหนึ่งพันปี วันหนึ่งหินนั้นเกิดแตกออก และลิงตัวหนึ่งกระโดดออกมา ลิงน้อยซุกซนได้ไปอยู่กับฝูงลิงที่เขาไม้ผล และตั้งตัวเป็นหัวหน้าฝูง บรรดาลิงในฝูงต่างให้ความนับถือเป็นท่านอ๋อง ฉายาพญาวานรโสภา อยู่มาวันหนึ่งเจ้าลิงตัวนี้เห็นลิงในฝูงตัวหนึ่งตายลงด้วยวัยชรา จีงเกิดความคิดจะออกเดินทางไปหาวิชาที่จะทำให้ไม่เจ็บ ไม่ตาย จึงออกเดินทางออกจากฝูงเสาะแสวงหาผู้รู้ไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็ได้พบกับเซียน “โผเถโจ๊ซือ” จึงได้ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์และได้ฝึกวิชาต่าง ๆ เช่น การแปลงกายได้ 72 ร่าง ตีลังกาได้ไกลกว่า 300 ลี้ ยืดหดตัวได้ ถอนขนตามร่างกายและเสกเป็นสิ่งของต่าง ๆ ได้ ขี่เมฆวิเศษ เป็นต้น พร้อมได้รับชื่อใหม่ว่า “ซุนหงอคง” เมื่อฝึกวิชาจนแก่กล้าสามารถแล้วก็เกิดความลำพองใจทำตัวเกเรเที่ยวอาละวาดอวดวิชาไปทั่ว ทั้งสวรรค์บาดาลต่างปั่นป่วนไปหมดทั้ง 3 โลก ร้อนถึงองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ต้องส่งทหารจากสวรรค์และเทพนับแสนนายไปตามจับ แต่หงอคงนั้นเก่งกล้ามากไม่ยอมให้จับง่าย ๆ ซ้ำยังปราบเหล่าทหารและเทพทั้งหลายจนอยู่หมัด จนกระทั่งองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ยังต้องยอมให้เห้งเจียขึ้นเป็นใหญ่และตั้งให้เป็นทหาร “มหาเทพ” แต่แทนที่หงอคงจะทำตัวให้สมกับตำแหน่งที่ได้รับ กลับกำเริบไม่เกรงกลัวใครยังคงเกเรต่อไป ถึงขั้นจะตั้งตนเป็นเทพครอบครองสวรรค์แทนองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ จนในที่สุดองค์เง็กเซียนจึงต้องขอความช่วยเหลือจากองค์พระยูไล เมื่อองค์พระยูไลได้ทราบเรื่อง ก็ได้ตรัสกับหงอคงว่า “หงอคง หากเจ้าคิดว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์เก่งกล้าสามารถมากนัก เจ้าจงขึ้นมาบนหัตถ์ของเรา และหาทางกระโดดให้พ้นจากฝ่ามือเราให้ได้ หากทำได้เราจะอนุญาตให้เจ้าได้ครองครองสวรรค์” หงอคงรับคำท้าอย่างไม่ลังเล แต่ไม่ว่าจะกระโดดไปไกลซักร้อยลี้หมื่นลี้ก็ไม่สามารถกระโดดพ้นจากพระหัตถ์ขององค์พระยูไลได้ ในที่สุดหงอคงก็สิ้นฤทธิ์ฤทธิ์ยอมแพ้ต่อฝ่าขององค์พระยูไล และถูกจับให้อยู่ภายใต้ภูเขาหินเป็นเวลาห้าร้อยปี ผู้ที่สามารถช่วยหงอคงออกมาได้จะมีเพียงพระถังซัมจั๋งเท่านั้น เมื่อพระถังซัมจั๋งรับหงอคงเป็นศิษย์แล้ว จึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “เห้งเจีย” หรือ “ซุนหงอคง” แต่ไม่ว่ายังไงเห้งเจียก็ยังคงมีนิสัยเหมือนเดิมคือ ดื้อรั้น ใจร้อน ไม่กลัวใคร และไม่เชื่อฟังพระถังซัมจั๋งซึ่งเป็นพระอาจารย์ แต่ท่านมีไม้ตายที่สามารถปราบพยศเห้งเจียได้อย่างอยู่หมัด นั่นก็คือ รัดเกล้าที่ได้รับประทานจากพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่รัดอยู่กับหัวของเห้งเจียและเมื่อเห้งเจียเกิดไม่เชื่อฟังเมื่อใด พระถังซัมจั๋งก็จะสวดมนต์เพื่อให้รัดเกล้าบีบรัดที่หัวของเห้งเจีย ทำให้เจ็บปวดมาก และรัดเกล้านี้จะหายไปเมื่อภารกิจนั้นเสร็จสิ้น
ตลอดระยะเวลาการเดินทางไปยังชมพูทวีป คณะของเห้งเจียก็ได้เจอปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นเล่ห์กลของเหล่าปีศาจที่มักจะปลอมตัวมาเพื่อหลวกลวง จนบางครั้งก่อให้เกิดความขัดแย้งกันเองระหว่างศิษย์และอาจารย์ เพราะเห้งเจียมักจะรับรู้เรื่องราวได้ก่อนเสมอเพื่อให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่กลับโดยอาจารย์เข้าใจผิดจนเกิดเรื่องวุ่นวายตามมา แต่ท้ายที่สุดทั้งศิษย์และอาจารย์ก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้
ปัจจุบันหงอคงหรือเห้งเจียได้รับการเคารพศรัทธาจากชาวจีนเป็นอย่างมาก ตามศาลเจ้าบางแห่งก็จะพบรูปเคารพของเห้งเจียเป็นเทพวานร หรือเจ้าพ่อเห้งเจีย ผู้ที่มากราบไหว้เจ้าพ่อเห้งเจียนั้นต้องการกราบไหว้เพื่อกำจัดปีศาจ และมารร้ายต่าง ๆ ที่คอยตามรังควาญในชีวิต เป็นอุปสรรคขัดขวางความเจริญก้าวหน้าให้ออกไปจากชีวิต อีกทั้งศาลเจ้าพ่อเห้งเจียยังเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่เกิดปีวอก มะโรงและมะเส็งควรไปกราบไหว้บูชาอีกด้วย ศาลเจ้าพ่อเห้งเจียในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงคือ ที่วัดไตรมิตร และที่จังหวัดกำแพงเพชร

ข้อสำคัญในการบูชาเห้งเจีย
1. ต่อหน้าห้ามเอ่ยคำว่า หม่าหลิว (ม้าสีเพลิง) ให้เรียกท่านว่านักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่
2. บูชารูปปั้นหงอคง ห้ามวางรูปปั้นพระถังซัมจั๋งในบ้านเพราะอิทธิฤทธิ์หงอคงจะมีจำกัด
3. หงอคง หงไห่เอ๋อ นาจา และภูตกระบือเข้ากันไม่ได้
4. ใช้ผลไม้บูชาโดยเฉพาะกล้วย ห้ามใช้เนื้อสัตว์
5. คนที่เกิดปีขาลไม่ควรบูชาหงอคง เพราะใน 12 นักษัตรปีวอกไม่ถูกกับปีขาล