ประวัติเทวกำเนิด ตามโลกธาตุแห่งดวงดาว
กำเนิดของดวงดาวบนท้องจักรวาล ได้อธิบายถึงการสร้างโลกของพระผู้เป็นเจ้า (บ้างว่าพระอิศวรผู้เป็นเจ้า) ด้วยอำนาจบารมีรัศมีกำลังฤทธิ์ทรงบันดาลให้เกิดอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลสุดที่จะกล่าวถึงความกว้างยาวได้ด้วยปัญญาของมนุษย์โลก และได้ทรงสร้างจักรวาลน้อยใหญ่ขึ้นมาหานับประมาณมิได้ โดยในระบบสุริยกจักรวาลนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเนรมิตจากอำนาจบารมีของพระผู้เป็นเจ้า อาณาจักรแห่งสุริยจักรวาลแห่งนี้ตลอดจนดาวพระเคราะห์ และเทพเจ้าประจำราศี หรือประจำทิศทั้งแปดรอบเขาพระสุเมรุก็ได้บังเกิดประกฎการณ์ขึ้น โดยจะกล่าวถึงแบบย่อสั้น ๆ คือ

โลกธาตุพระอาทิตย์ (ราชาของจักรวาล)
ด้วยอำนวจบารมีรัศมีกำลังฤทธิ์ แห่งพระผู้เป็นเจ้า ได้ร่ายพระเวทจากราชสีห์จำนวน 6 ตัวด้วยกัน นำมาบดป่นเป็นผงธุลีห่อด้วยผ้าแพรสีแดง อธิษฐานจนกลายร่างเป็นทวยเทพเทวราช เพศชายมีประกายร่างสีแดง วิมานที่อยู่อาศัยเป็นเรือนวิมานทับทิมทรงราชสีห์เป็นพาหนะ เป้นธาตุไฟอันโชติช่วงรุ่งโรจน์ และรุนแรง สามารถเผาผลาญสิ่งทั้งปวงได้อย่างพริบตา (เตโชธาตุ) มีอำนาจพลังแห่งพระเคราะห์ เป็น 6 ปกครอง “ทิศอิสาน” หรือ “ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ” รุปร่างสันทัด ร่างเล็กหน้ามน หรือใบหน้ากลม บ้างก็ว่ามีรูปร่างล่ำสัน
โลกธาตุพระจันทร์ (ราชินีชองจักรวาล)
ด้วยอำนาจบารมีรัศมีกำลังฤทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าได้ร่ายพระเวท ทรงประทานให้เทพยดานางฟ้า 15 องค์ บดป่นเป็นผงธุลี ห่อด้วยผ้าแพรสีขาวนวลสวย สีเหลืองครีม อธิษฐานจนบังเกิดเป็นทวยเทพเทวราชเพศหญิง รูปร่างสะอาด เกลี้ยงเกลามีประกายผิวสีขาวนวล อาศัยวิมานมุกดา ทรงอาชา หรืออัศวราช เป็นพาหนะมีกำลังแห่งดาพระเคราะห์เป็น 15 ปกครอง “ทิศบูรพา” หรือ “ทิศตะวันออก” เป็นธาตุดิน ชุ่มชื่นเยือกเย็นอันสมบูรณ์ (ปฐวีธาตุ) มีรูปร่างสูงโปร่ง สะโอดสะอง สวยงาม สมเป็นกุลสตรียิ่ง

โลกธาตุพระอังคาร (เทพเจ้าแห่งสงคราม)
ด้วยอำนาจบารมีรัศมีกำลังฤทธิ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าได้ร่ายพระเวทประทานให้กระบือ 8 ตัว บดป่นเป็นผงธุลี ห่อด้วยผ้าแพรสีชมพู อธิษฐานจนบังเกิดปรากฎเป็นทวยเทพเทวราช เพศชายผู้มีร่างกายแข็งแรง มีประกายสีเป็นมณีเพทาย มีวิมานโกเมนเป็นที่อาศัย ทรงมหงสาเป็นยานพาหนะ มีกำลังแห่งดาวพระเคราะห์เป็น 8 ปกครอง “ทิศอาคเนย์” หรือ “ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นธาตุลมอันเป็นลมกรด ลมเพลิงพรายมหาประลัยสามารถทำลายล้างสิ่งกีดขวางให้หมดสิ้นได้ (วาโยธาตุ) มีรูปร่างล่ำสันใหญ่กำยำมาก เอวเล็กอกใหญ่คล้ายนักกล้าม ประกายผิวสีเลือด ดุร้าย ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ดุดันยิ่งนัก เป็นเทพเจ้าแห่งการสงคราม แห่งเลือดและการเข่นฆ่า

โลกธาตุพระพุทธ (เทพเจ้าแห่งการพาณิชย์)
สร้างจากคชสาร 17 เชือก บดป่นเป็นผงธุลี ห่อด้วยผ้าแพรสีเขียวมรกต อธิษฐานบังเกิดปรากฎเป็นทวยเทพเทวราช เพศหญิงมีรูปร่างสง่างาม มีประกายสีเขียวมรกต สว่างไสวใสสะอาด มีวิมานมรกตเป็นที่อาศัย ทรงคชราชเป็นพาหนะ มีกำลังแห่งดาวพระเคราะห์เป็น 17 ปกครอง “ทิศทักษิณ” หรือ “ทิศใต้” เป็นธาตุน้ำ น้ำมหาสมุทร ทะเล อันกว้างใหญ่ไพศาล (อาโปธาตุ) รูปร่างขาวท้วม ตัวกลม ผิวนวลสวยไม่สูงนัก เป็นผู้มีวาจาอันไพเราะ มีความเฉลียวฉลาดเป็นปราชญ์ยิ่งนัก นับเป็นเทพเจ้าแห่งการพาณิชย์ที่มีความรอบรู้เป็นเลิศ

โลกธาตุพระพฤหัสบดี (เทพเจ้าผู้เรืองด้วยปัญญา)
สร้างจากฤาษี 19 ตน บดป่นเป็นผงธุลี ห่อด้วยผ้าแพรสีแก้วไพธูรย์ อธิษฐานบังเกิดปรากฎเป็นทวยเทพเทวราช เพศหญิงมีผิวพรรณเป็นสีแก้วไพฑูรย์ ทรงวิมานบุษราคัมเป็นที่อาศัย ทรงกวางทองอันสง่างามเป็นพาหนะ มีกำลังแห่งดาวพระเคราะห์เป็ฯ 19 ปกครอง “ทิศประจิม” หรือ “ทิศตะวันตก” เป็นปลายธาตุดิน ต่อช่วงมาจากดาวจันทร์ซึ่งเป็นธาตุดิน แต่ธาตุดินของดาวพฤหัสบดีนี้เป็นดินที่แข็ง ดินแห้ง ขาดความชุ่มชื่น ดินทราย มีรูปร่างสูงใหญ่ ท้วมใหญ่ ผิวขาว ดูเป็นผู้มีปัญญาอันสุขุม มีความสง่าดูเด่น เป็นเทพเจ้าผู้เรืองด้วยปัญญา ความสามารถอันชาญฉลาดในทุกคัมภีร์พระเวทต่าง ๆ รักความยุติธรรม มีคุณธรรมในหัวใจ นับเป็นดาวดวงเดียวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ

โลกธาตุพระศุกร์ (เทพเจ้าแห่งความรักและกามารมณ์)
สร้างจากโค 21 ตัว บดป่นเป็นผงธุลี ห่อด้วยผ้าแพรสีน้ำเงินอันเงางาม อธิษฐานปรากฎบังเกิดเป็นทวยเทพเทวราช เพศหญิงมีผิวพรรณสวยงามมาก เป็นพระเคราะห์ดวงเดียวที่สวยที่สุดทั้งร่างกาย และวิมานที่อยู่อาศัย มีกำลังพระเคราะห์เป็น 21 ปกครอง “ทิศอุดร” หรือ “ทิศเหนือ” อันเป็นะาตุน้ำ มีสภาพเป็นคลอง แม่น้ำ หนอง บึง แอ่งน้ำเล็ก ๆ (อาโปธาตุ) ต่างกันกับดาวพุธคือความใหญ่โต กว้างขวางของลักษณะแห่งน้ำที่ปรากฎ มีรูปร่างขาวท้วม อวบ นับเป็นดาวที่มีความงามที่สุดในขบวนดาวพระเคราะห์ทั้งหลายในจักรวาล เทพเจ้าแห่งความรักความร่าเริงแจ่มใส

โลกธาตุพระเสาร์ (เทพเจ้าแห่งโทษทุกข์)
สร้างจากเสือ 10 ตัว บดป่นเป็นผงธุลี ห่อด้วยผ้าแพรสีดำ ประพรมด้วยน้ำอมฤต อธิษฐานจนบังเกิดปรากฎเป็นทวยเทพเทวราช เพศชายมีพระพักตร์อันดุร้ายคล้ายเสือ มีความเหี้ยมหาญยิ่งนัก มีกำลังแห่งพระเคราะห์เป็น 10 ตามอำนาจการสร้างของพระผู้เป็นเจ้าที่บันดาลไว้ ครองทิศ “หรดี” หรือ “ทิศตะวันตกเฉียงใต้” อันเป็นธาตุไฟ เป็นไฟอันร้อนระอุรุนแรงยิ่งนัก สามารถเผาผลาญหรือหลอมเหลวสิ่งต่าง ๆ ที่สกัดกั้นขวางหน้า แต่ไม่เท่าเทียมดาวพระอาทิตย์ (เตโชธาตุ) มีรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง กระดูกมากกว่าเนื้อ หน้าเหี้ยม เกร็งผิวดำ “เทพเจ้าแห่งความเงียบขรึม”

โลกธาตุพระราหู (เทพเจ้าแห่งความเจ้าเล่ห์)
สร้างจากหัวผีโขมด 12 ตน (เป็นเพศชาย) ผิวสีเมฆหมอก เป็นธาตุลม (วาโยธาตุ) รองจากพระอังคาร เป็นลมพายุฤทธิ์อ่อนกว่าพระอังคารมาก หรืออาจจะเป็นลมธรรมชาติ ลมเย็นสบาย ตามประวัติเทวกำเนิด กล่าวกันว่าพระนารายณ์ได้กวนเกษียรสมถทร กำลังจัดให้มีการปรุงน้ำอมฤต เพื่อจะเลี้ยงแก่หมู่เทพเทวดาทั้งหลายยังสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า เจ้าราหูตนนี้จึงได้ทำการแปลงร่างเป็นเทพเทวดาแอบแฝงเข้าไปเพื่ออยากจะลองลิ้มรสน้ำอมฤตของพระนารายณ์ เพราะถ้าใครได้ดื่มน้ำดังกล่าวแล้วก็จะเป็นอมตะ คือไม่มีการตายเกิดขึ้นเด็ดขาด แต่เจ้าราหูได้ถูกพระนารายณ์จับได้ จากความกริ้วโกรธของท่านจึงได้ใช้จักร (เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของพระนารายณ์) ในดัชนีอธิษฐานออกไป ถูกร่างของพระราหูกายกระเด็นออกจากกันขาดเป็น 2 ท่อน แต่ด้วยอำนาจของน้ำอมฤตจึงไม่ตาย จากการขาดออกจากกันของร่างกายส่วนหนึ่งกลายเป็นพระราหู หน้าตาเป็นยักษ์มีเขี้ยวดุร้าย และอีกส่วนหนึ่งลอยไปในอากาศเป็นส่วนหาง ซึ่งมีลัษณะเป็นหางนาค (งู) สีกายทองสัมฟทธิ์ เรียกว่า “ดาวเกตุ”

โลกธาตุพระเกตุ (เทพเจ้าแห่งวิญญาณธาตุ)
สร้างจากพระยานาคราช 9 ตัว ห่อด้วยผ้าแพรสีทองคำเป็นเทวราชทรงนาคเป็นพาหนะ ตามประวัติมิได้กล่าวอะไรไว้มากมายแต่อย่างใด

โลกธาตุมฤตยู (เทพเจ้าแห่งความตาย)
เป็นดาวที่เกิดขึ้นหรือเพิ่งค้นพบขึ้นมาใหม่ในราว พ.ศ. 2325 ในคัมภีร์จึงมิได้กล่าวเอาไว้มากมายนัก
สำหรับเรื่องประวัติเทวกำเนิดของดวงดาวทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ ยังมีรายละเอียดอีกมาก ต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดของดาวดวงต่าง ๆ ที่ท่านควรรู้ และยิ่งรู้มากเท่าใดยิ่งดี เป็นผลให้ท่านพยากรณ์ชะตาได้อย่างสนุกสนาน และต่อไปนี้จะเป็นสิ่งที่ท่านควรทราบไว้เพื่อประดับบารมีแห่งการเป็นนักพยากรณ์มืออาชีพ
จากประวัติที่ได้กล่าวโดยย่อแล้ว ท่านพอทราบหรือไม่ว่าทวยเทพเทวราชผู้ทรงอำนาจสรรพสิ่ง ทรงพลัง อิทธิพล มีบทบาทอย่างไรกับการเรียนโหราศาสตร์ไทยเลขศาสตร์ที่ท่านกำลังศึกษาอยู่ นับว่าเป็นความเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องของบูรพาจารย์สมัยโบราณที่ทำให้ท่านเกิดความสนุก อยากรู้อยากอ่าน และที่สำคัญคือ จำได้ง่ายไม่ก่อให้เกิดความจำเจ โดยได้มองภาพพจน์ว่าดวงดาวนั้นก็เป็นบุคคลเช่นเดียวกับเราท่านทั้งสิ้น มีชีวิตจิตใจ มีนิสัยต่าง ๆ แตกแยกกันออกไปหลายรูปแบบหลายความหมาย เช่น อุปนินัย สถานที่ สิ่งของ สีสรร รสชาติ อวัยวะในร่างกาย โรถภัยไข้เจ็บ เพศ อาชีพ ธาตุ ตัวอักษร สัญลักษณ์ จริต ทิศ อัญมณี สัญชาติ คู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล คู่ศัตรู ตัวเลข กำลังดาว ภาวะของการเป็นบาปพระเคราะห์ หรือศุภเคราะห์ ตลอดจนพระประจำวันเกิดประจำดวงดาว เป็นต้น
ความหมายของดวงดาวที่กล่าวยกตัวอย่างมานี้ ใช่ว่าเมื่อจำได้แล้วจะนำมาใช้ได้ทั้งหมดก็หาไม่ แต่เราจะเลือกความหมายที่จำเป็น และสำคัญ ๆ เท่านั้นนำมาใช้ ท่านต้องมีความรู้สึกนึกคิดไว้เลยว่าดาวคือ “มนุษย์” มีชีวิตจิตใจเช่นเดียวกับเรา หรือว่ามีกิเลสเหมือนมนุษย์ทุกประการ จากเรื่องราวประวัติของเทพบุตรที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น สามารถจับมาพอเป็นนิสัยใจคอ อิริยาบถและอื่น ๆ ได้โดยย่อคือ

พระอาทิตย์
สร้างจากสัตว์ประเภทราชสีย์ ท่านลองติดตามดูว่า ราชสีห์ตามที่ทราบกัน ถ้าพูดถึงอุปนิสัยแล้ว คือ รักสงบ รักอิสระ รักพวกพ้องหมู่คณะเป็นอย่างมาก ท่าท่างเชื่องช้าแต่ดู่มีความสง่าเวลาเดิน อาจหาญ แข็งแกร่ง และตอนออกล่าเหยื่อมักมีความรวดเร็วว่องไวยิ่งนัก อันหมายถึงท่าทางเชื่องช้าแต่รอโอกาสแห่งการโจมตี ทั้งยังเป็นสัตว์ที่รักเกียรติ รักหมู่คณะเผ่าพันธุ์ของตัว นิสัย (มนุษย์) รักชื่อเสียง รักความยุติธรรม เสียสละถึงคราโกรธ โทสะรุนแรง มักตื่นตัวเสมอเมื่อมีเหตุทำอะไรเปิดเผย

พระจันทร์
สร้างจากนางฟ้า ในด้านจิตใจแล้วเป็นดาวที่อ่อนหวาน อ่อนโยน รักสวยรักงาม หวั่นไหวง่าย แง่งอน ใจน้อย ชอบช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ อารมณ์เร็ว ทั้งรักและชัง ชอบฝันเฟื่อง สร้างจินตนาการได้ดี เชื่อผู้อื่นได้ง่าย ว่าง่าย มีเมตตาสูง

พระอังคาร
สร้างจากกระบือ ในด้านอุปนิสัยใจคอ คือมีความอดทนอดกลั้นต่อสู้ต่อความยกลำบาก กล้ากาญ แต่ไม่สู้จะฉลาดนัก ความพยายามสูง มีความเพียร อารมณ์รุนแรง บางครั้งขาดความยับยั้ง ขาดไหวพริบ รักหมู่คณะ ไม่ค่อยมีเล่ห์กล รักการต่อสู้ ขยันมากกว่าที่จะคิดอย่างเดียว ประเภทคิดแล้วทำเลย ดาวอังคารนี้นับเป็นดาวที่มีความขยันขันแข็ง ชอบรับอาสาในงานที่ท้าทาย และเสี่ยง

พระพุธ
สร้างจากช้าง ในด้านอุปนิสัยใจคอแล้วคือ ว่านอนสอนง่ายอยู่ในโอวาทด้วยดี รับคำสั่งเสมอ และปฏิบัติตามได้ง่าย สุภาพอ่อนโยน เชื่องช้าแต่ดูมีสง่า ช่างคิดช่างพิจารณา มีความจำแม่นยำ ปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมได้ดี โอบอ้อมอารี สามารถเป็นที่รักที่เอ็นดูของผู้พบเห็น

พระพฤหัสบดี
สร้างจากฤษี ในด้านอุปนิสัยใจคอ คือ ช่างคิด ช่างหาเหตุหาผลไม่เชื่อใครง่าย ๆ โดยไม่พิสูจน์ทดลอง ชอบอบรมสั่งสอนผู้อื่น วางตัวดีอยู่ในศิลในธรรม ชอบศึกษาเล่าเรียน ถ้าได้ศึกษาแล้วจะเป็นผู้ที่มีวิทยาการดี โอบอ้อม มีคุณธรรม มีธรรมะในหัวใจ เป็นนักวิชาการตัวยง

พระศุกร์
สร้างจากโค ในด้านอุปนิสัยใจคอแล้วกล่าวคือ มีความสุภาพเยือกเย็นว่านอนสอนง่ายไม่ชอบขัดใจใคร ทำอะไรสุจริตเปิดเผย ไม่มีลับลมคมใน รักสนุก รักสมาคม เป็นดาวที่ทันสมัยในเรื่องของการแต่งกายอันสวยงาม

พระเสาร์
สร้างจากเสือ ในด้านอุปนิสัยใจคอแล้วบางครั้งดุร้าย ขาดความยับยั้ง ขาดความไว้วางใจ และระแวงไม่ไว้วางใจใครง่าย ๆ สันโดษ ฉวยโอกาสเก่ง ช่างสังเกตและจดจำ ยามพยาบาทก็รุนแรง เคลื่อนไหวช้าแต่คราวถูกกระตุ้นจะว่องไวปราดเปรียวแบพลัน อดทนต่อการรอโอกาส ไม่ชอบเข้าหมู่คณะ หากินโดยลำพัง ยามโกรธโหดร้ายขาดเมตตากรุณาต่อผู้อื่น

พระราหู
สร้างจากหัวผีโขมด อุปนิสัยใจคอกว่าวว่าชอบหลบตัว ดูลึกลับไม่คบใครง่าย ๆ ไม่วางใจใคร ดูมีเล่ห์เหลี่ยม ชอบพลิกแพลงไม่ชอบทำอะไรซึ่งหน้า มักมัวเมาอยู่ในสิ่งที่เป็นอบายมุข ไม่ค่อยบริสุทธิ์ใจ ลุ่มหลงมัวเมา ชอบให้คนยกย่องสรรเสริญ ขาดคุณธรรมได้เมื่อจนตรอก

พระเกตุ
สร้างจากนาค (พระยานาค) ในด้านอุปนิสัยใจคอกล่าวคือ ชอบออกฤทธิ์ออกเดช อวดฤทธิ์และศักดา ดูเร้นลับและแอบแฝง ชอบกระทำสิ่งแปลก ๆ ไม่ซ้ำแบบใครเป็นดาวคอยเสริมเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นด้านดี หรือด้านเลวก็สามารถเสริมหรือซ้ำเติมให้ดี และให้ร้ายได้ทั้งสิ้น ทั้งยังมีความหมายเป็นอย่างอื่นอีกมาก