พระอรหันต์จี้กง



พระอรหันต์จี้กง หรือ พระเพี้ยน ชื่อที่ฟังดูไม่เข้าหูแต่ทำให้ทุกคนนึกถึงพระจี้กง ในทางศาสนาพุทธนิกายมหายานจี้กงถูกจัดเป็นพระอรหันต์ แต่เป็นพระอรหันต์ที่แปลกไปจากพระองค์อื่นที่บริโภคทั้งเนื้อสัตว์และชอบดื่มสุราเป็นชีวิตจิตใจ รวมถึงมีลักษณะท่าทางที่ไม่สำรวมดังเช่นพระองค์อื่น ๆ ทั่วไป แต่นั่นก็เป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ภายในของท่านแล้วกลับบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยจิตใจที่แสนประเสริฐ ตามประวัติเล่าว่าจี้กงหรือจี้เตียนมีตัวตนอยู่จริงในสมัยราชวงศ์ซ่ง ใต้การปกครองของประเทศจีน โดยใช้ชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ. 1148 ถึง 1209 เดิมแซ่หลี่ ชื่อว่าซินหย่วน นอกจากนี้ก็ยังมีนามอื่น ๆ อีก เช่น หูหยิ่น และฟังหยวนโส่ว เกิดในตระกูลเศรษฐี ที่หมู่บ้านหย่งหนิง ตำบลเทียนไถ มณฑลเจ้อเจียง หลังบิดามารดาเสียชีวิตลง จี้กงก็ได้ตัดสินใจลาทางโลกสละเพศฆราวาสออกบวชที่วัดหลิงอิ่น แต่ยิ่งบวชไปนาน ๆ เข้าก็เริ่มมีพฤติกรรมผิดแปลกไปจากพระรูปอื่น ๆ ทั้งผิดศีล เล่นซุกซนกับเด็ก ๆ พูดจาไม่สำรวม ดื่มสุรา บริโภคเนื้อสัตว์ แต่เมื่อมองไปลึก ๆ แล้วพระอาจารย์กลับรู้ว่าจี้กงได้บรรลุถึงธรรมแล้วจึงได้ปล่อยไป เพราะท่านตระหนักดีว่าการกระทำของจี้กงนั้นได้แฝงไปด้วยความถูกต้องและคุณประโยชน์
จี้กงมีชีวิตอยู่ในยุคของราชวงศ์ฮั่น จนต่อมาเมื่อมีพวกมองโกลเข้ามารุกรานและยึดอำนาจ จี้กงจึงต้องสึกออกมาเพื่อวางแผนช่วยกอบกู้ชาติคืน โดยชักชวนชาวจีนให้มาช่วยกัน ในวันกู้ชาติก็ได้รวบรวมชาวจีนมาตั้งโต๊ะไหว้พระจันทร์และแจกจ่ายขนมเปี๊ยะที่ภายในมีสารนักแนะในการวางแผนร่วมมือกันกู้ชาติ และจากการร่วมแรงร่วมใจกันของชาวจีนโดยการนำของจี้กงนี้เองจึงทำให้สามารถขับไล่พวกมองโกลออกไปได้จนสำเร็จ
หลังจากกอบกู้ได้สำเร็จแล้วจี้กงก็เดินทางเข้าไปเพื่อบำเพ็ญสมาธิด้วยการยืนอยู่ประมาณ 7 ปี โดยไม่กินอาหาร กินเพียงน้ำค้างกับน้ำฝนและยืนอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานจนขาท่านเสียไปข้างหนึ่ง จากการถูกมดและปลวกแทะจนเหลือแต่กระดูกและท่านก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในทางพุทธศาสนาถือได้ว่าจี้กงได้สำเร็จในขั้นโพธิญาณ หรือเปรียบเสมือนเป็นเทพเจ้า ชาวจีนที่เชื่อและศรัทธาท่านจี้กงมักจะไปขอพรในเรื่องของโชคลาภ และที่สำคัญเรื่องขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ แม้แต่น้ำมนต์ที่อยู่ที่ศาลเจ้าจี้กงยังนำมาประพรมเพราะเชื่อว่าสามารถช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและขับไล่คุณไสยได้